เคลือบสี เคลือบแก้ว ติดฟิล์ม เลือกแบบไหนดีที่สุด! ??
.
หลายคนคงกำลังคิดอยู่ว่า จะดูแลรักษาสีรถให้เงางามอยู่กับเราไปตลอดยังไงดี วันนี้น้องดีจังมีข้อมูลดีๆ มาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ ถึงข้อดีข้อเสีย และการลงทุนกับการรักษาสีรถให้อยู่ในราคาที่เหมาะสม ?
.
แน่นอนว่าการดูแลรักษารถยนต์ให้ดูใหม่เงางามอยู่เสมอนั้น ✨ นับเป็นความสุขในอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับคนรักรถอย่างเรา ปัจจุบันมีการดูแลรักษาสีรถยนต์หลายรูปแบบทั้งการเคลือบสี เคลือบแก้ว และน้องใหม่อย่างติดฟิล์มนั่นเอง ส่วนจะดูแลรักษารถยนต์แบบไหนถึงจะเหมาะกับเรานั้น ตามน้องดีจังไปดูเลยยย ?

.

1) การเคลือบสีรถยนต์ ✅
.
คือการขัดแว๊กซ์ (Wax) และลงน้ำยาเคลือบผิวรถยนต์ ทำหน้าที่เสมือนฟิล์มบางๆ เพื่อป้องกันสีผิวรถยนต์จาก ฝุ่น น้ำ ฝน ? ? รอยเปื้อนต่างๆ ทำให้รถดูมีสีสดฉ่ำขึ้นมา มีความเงาแวววาวมากยิ่งกว่าเดิม ✨ เป็นการเคลือบผิวรถยนต์ของคุณไว้ การเคลือบสีรถยนต์นั้นมีทั้งแบบ สเปรย์น้ำ และก็แบบเนื้อครีมหรือเนื้อขี้ผึ้ง ซึ่งขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน โดยส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานประมาณ 2-4 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาและการใช้งาน เหมาะกับคนที่ล้างรถเป็นประจำสม่ำเสมอ สามารถทำได้เองไม่ต้องพึ่งช่างหรือผู้เชี่ยวชาญ ค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 400-2,000บาท
.

2) การเคลือบแก้ว ✅
.
การเคลือบแก้ว เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นในการปกป้องสีรถยนต์ได้ทนนานกว่าการเคลือบสีรถ (Wax) ?? ซึ่งมีส่วนประกอบหลักของ ซิลิกา เป็นสารประกอบของผลึกแก้ว ? ลงบนผิวของแล็กเกอร์บนตัวรถ ซึ่งช่วยเพิ่มความหนาจากชั้นแล็กเกอร์และมีความแข็ง จุดเด่นของการเคลือบแก้วนั้น คือเพื่อปกป้องรถคุณจากคราบสกปรก คราบน้ำ ป้องกันการเกิดรอยขนแมวจากการใช้งานในชีวิตประจำวัน ? ไม่ให้ลึกลงไปถึงแล็กเกอร์ของสีรถ ช่วยให้รถคุณยังมีความเงางามของสี ดูเงา ฉ่ำ และเปล่งประกายอยู่เสมอ อีกทั้งยังสามารถป้องกันหินกระเด็นใส่ได้บางส่วนอีกด้วย
.
โดยส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานประมาณ 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของน้ำยาและความหนาของชั้นเคลือบ ตั้งแต่ 1H-9H ซึ่งถ้าหากได้รับการดูแลต่อเนื่องอย่างถูกต้องสามารถอยู่ได้นานถึง 5 ปี การเคลือบแก้วนั้นเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถ ⌛️ หรือล้างรถเป็นประจำ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 10,000-หลักแสน ขึ้นอยู่กับน้ำยาและแพ็กเกจของศูนย์ให้บริการ
.

3) การติดฟิล์มกันรอยรถยนต์ ✅
.
เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนใช้งานรถหนักๆ โดยเฉพาะ การติดฟิล์มกันรอยรถยนต์นั้นจุดประสงค์เพื่อกันรอยทุกชนิดเช่น กรด มูลนก ยางไม้ กันสะเก็ดหิน ? และถึงขนาดสามารถกันรอยการเบียดของตัวถังรถได้เลยในบางครั้ง(ความหนาของฟิล์ม 200 ไมครอนขึ้นไป) ? แต่การติดฟิล์มกันรอยนั้นต้องใช้ช่างผู้ชำนาญการในการติดตั้ง และจำเป็นต้องติดตั้งในห้องปลอดฝุ่นเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันตัวฟิล์มมีหลากหลายคุณสมบัติ เช่น เมื่อเวลาเกิดรอยที่ฟิล์มแล้วสามารถหายไปเองได้ ป้องกันน้ำเกาะผิว ป้องกันรังสี UV ☀️ เพื่อถนอมสีเดิมของตัวรถ โดยส่วนใหญ่ความหนาของฟิล์มกันรอย ควรอยู่ที่ 190-240 ไมครอน และสามารถใช้งานได้ยาวนานประมาณ 5-10 ปี โดยขึ้นอยู่กับการใช้งาน และค่าใช้จ่ายเริ่มประมาณที่ 30,000-หลักแสน ขึ้นอยู่กับเกรดของฟิล์มและรุ่นหรือยี่ห้อของรถ
.
สุดท้าย ราคาที่เหมาะสม ⚖️ ในการตัดสินใจเลือกว่ารถของเราเหมาะกับแบบไหน ให้เราคำนวณจากราคารถของเรา ดังนั้น ราคาที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 2 – 4% ของราคารถ ซึ่งยิ่งรถที่มีราคาสูงตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป จะลด % ลงมา ⬇️ กลับกันรถที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านลงไป % จะถูกเพิ่มขึ้นไปนั่นเอง ⬆️ และเพื่อนๆ ชอบแบบไหนกันบ้าง ลองบอกน้องดีจังกันหน่อยยย
.
#เคลือบสี #เคลือบแก้ว #ติดฟิล์ม #รถยนต์

หากชอบบทความนี้ สามารถกดแชร์ด้านล่างได้เลยค่ะ